ฝ่าวงล้อมการซื้อขายหุ้นเทรดดิ้งวัน อัตราการเปลี่ยนแปลงของราคา (ROC) อัตราการเปลี่ยนแปลงของราคา (ROC) จะช่วยให้การเปลี่ยนแปลงของราคาในการเปลี่ยนแปลงเวลาที่กำหนดโดยเฉพาะอย่างยิ่ง ความแตกต่างที่สามารถแสดงจุดเดียวกันหรือร้อยละ คำอธิบาย: อัตราการเปลี่ยนแปลง (ROC) โดยตรงเสนอราคา, การทำเหมืองแร่มันเป็นการเพิ่มขึ้นของราคาหุ้นอัตราการเปลี่ยนแปลงของราคา (ROC) เพิ่มขึ้นตามราคาหุ้นที่ลดลงอัตราการเปลี่ยนแปลงของราคา (ROC) ลดลง ช่วงเวลาที่เป็นปัจจัยสำคัญสำหรับอัตราการเปลี่ยนแปลงของราคา (ROC) กรอบเวลาที่นิยมมากที่สุดคือวันที่ 12 และ 25 วัน โดยมีระยะเวลา 12 วันที่ดีที่สุดคือหาตลาดหุ้นมากกว่าซื้อหรือขายในระยะสั้นระยะกลาง อัตราที่สูงกว่าการเปลี่ยนแปลงของราคา (ROC) บ่งชี้ว่าหุ้นเป็น overbought ล่างอัตราการเปลี่ยนแปลงของราคา (ROC) ระบุตำแหน่งหุ้น oversold โดยปกติเมื่อหุ้นมาอยู่ในตำแหน่งที่ oversold ก็แสดงก็พร้อมที่จะเลื่อนขึ้นด้านในตำแหน่ง overbought ราคาหุ้นลงมาตามปกติ วิธีการคำนวณ? ที่นี่เราจะคำนวณวันที่ 12 ร็อค 1) ใช้ราคาปิดของวันนี้ (พูดว่า "A") 2) ใช้เวลา 12 วันก่อนที่จะปิดราคา (พูดว่า "B") ร็อค = [(A-B) / B] * 100 อัตราการเปลี่ยนแปลงของราคา (ROC) oscillator ผันผวนด้านบนและใต้เส้นศูนย์ ค่านิยมของร็อคอยู่เสมอระหว่าง 0% และ 100%.You สามารถซื้อหุ้นเมื่อคุณเห็นของขายความแตกต่างในเชิงบวกที่มีความแตกต่างในเชิงลบ โมเมนตัม: โมเมนตัมเป็นตัวชี้วัดของความเร็วและความกว้างของความคืบหน้าหรือถอยหลังในตลาดหุ้นที่ ความเร็วที่วัดโดยอัตราการเปลี่ยนแปลงของราคา (ROC) และความกว้างจะถูกกำหนดโดยจำนวนหุ้นที่ก้าวหน้าลบด้วยจำนวนของหุ้น decling ในชีวิตประจำวันเพิ่ม continuouslly ไป Toatal การทำงาน ที่นี่เรามองหุ้นสุทธิส่วนร่วมกับแนวโน้มที่สำคัญ อัตราการเปลี่ยนแปลงของราคา (ROC) เคยแสดงยอดหนึ่งหรือมากกว่าที่ต่ำกว่าราคาในตลาดเมื่อมาถึงใกล้ด้านบน เมื่อตลาดหุ้นในสภาพ overbought ใน Middel ของแนวโน้มที่สำคัญทั้งหมดหรือส่วนใหญ่อัตราการเปลี่ยนแปลงของราคา (ROC) ฮิตจุดสูงสุดใหม่ อัตราใด ๆ เวลาของการเปลี่ยนแปลงของราคา (ROC) ถอยเพื่อ modrate เขต oversold หลังจากสภาวะ overbought มากที่บ่งชี้ว่าการลงทุนในตลาดหุ้นมีความพร้อมล่วงหน้าอย่างมีนัยสำคัญอีก ความแตกต่างในอัตราการเปลี่ยนแปลงของราคา (ROC): ยอดลดลงในอัตราการเปลี่ยนแปลงของราคา (ROC) กับความคิดฟุ้งซ่านที่สูงขึ้นในการลงทุนในตลาดหุ้นที่เรียกว่าความแตกต่างในเชิงลบและมักจะเป็นสัญญาณขาย ยอดเขาที่สูงขึ้นในอัตราการเปลี่ยนแปลงของราคา (ROC) กับระดับต่ำสุดที่ต่ำกว่าในการลงทุนในตลาดหุ้นที่เรียกว่าความแตกต่างในเชิงบวกและมักจะเป็นสัญญาณซื้อ เพื่อให้ได้ผลที่ดีกับอัตราการเปลี่ยนแปลง (ROC) เราจำเป็นต้องใช้มันกับตัวชี้วัดทางเทคนิคอื่น ๆ เช่นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ (MA) | ในปริมาณสมดุล (OBV) | ร้อยละราคา Oscillators (PPO) | ดัชนีความแข็งแรงญาติ (RSI) | Stochastic Oscillator (STO) | ดัชนีสินค้าโภคภัณฑ์ช่อง (CCI) | ออสซิลไหลของเงิน Chaikin (CMF) เมื่อเราใช้สองหรือสามชี้วัดทางเทคนิคและในกรณีของความแตกต่างในเชิงบวกและเชิงลบแตกต่างมันให้ผลดีจริงเท่านั้นที่คุณจะต้องเปลี่ยนช่วงเวลาและหาซึ่งเป็นคู่ที่ดีกว่าสำหรับคุณ